ที่พักสำหรับครอบครัวในฝันของแต่ละคนเป็นอย่างไร? เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงการที่สมาชิกในครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ้มและหัวเราะร่วมกันในพื้นที่ส่วนกลางภายในบ้าน แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยังเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับดูภาพยนตร์ ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่สามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนในครอบครัวได้อย่างแท้จริง
ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการนำแนวคิดของบ้านที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ผนวกรวมกันแนวคิดคลัสเตอร์โฮม จนเกิดเป็นที่พักสำหรับครอบครัวใหญ่ ที่คนทุกเจนฯ สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างลงตัว
แนวคิด Cluster Home คือบ้านที่มีแนวคิดอย่างไร
สำหรับแนวคิดเรื่อง Cluster Home มีมาตั้งแต่ในยุคโบราณแล้ว โดยเป็นการสร้างกลุ่มบ้านหรือที่พักอาศัยที่เชื่อมต่อกัน ที่สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นสวนภายในบ้าน พื้นที่พักผ่อน หรือในต่างประเทศบางที่ยังมีการแชร์ที่จอดรถร่วมกัน เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยพ่อแม่และพี่น้องที่แยกกันไปสร้างครอบครัว แต่ยังต้องการอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
หากว่าเราลองคิดถึงการสร้างบ้านของคนไทยสมัยก่อน เราจะเห็นลักษณะบ้านที่มีลักษณะเป็นเรือนหมู่ ซึ่งมีบ้านหลายหลังอยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยเรือนหลังใหญ่จะเป็นเรือนหลักที่มีมาก่อน พอลูก ๆ เริ่มออกเรือนก็จะปลูกเรือนแยกไป แต่ยังอยู่ในบริเวณเดียวกัน อันเป็นลักษณะของเรือนที่ขยายออกไป
ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่นิยมการสร้างบ้านแบบคลัสเตอร์ แต่ในประเทศจีนก็มีการปลูกเรือนหมู่ในลักษณะแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมครอบครัวของคนเอเชียที่นิยมอยู่เป็นครอบครัวใหญ่นั่นเอง
Cluster Home กับครอบครัวขยายของคนไทย
แม้ว่าในช่วงวัยทำงานและการสร้างครอบครัวในยุคแรก ๆ หลายคนจะเลือกที่จะแยกตัวมาอยู่คนเดียว หรือสร้างครอบครัวเล็ก ๆ แต่พอถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง อย่างครอบครัวที่เริ่มมีลูกเล็ก ๆ ก็เริ่มที่จะคิดถึงการย้ายกลับไปอยู่กับคนรุ่นปู่ย่าตายาย ซึ่งไม่เพียงแต่การสร้างเกราะปกป้องลูกน้อยให้มีคนช่วยดูแลอีกขั้น แต่ยังสามารถดูแลพ่อแม่ในยามแก่เฒ่าได้อีกด้วย
ดังนั้น จึงอาจจะกล่าวได้ว่า แม้ว่าโครงสร้างของครอบครัวในช่วงหนึ่งจะมีแนวโน้มไปในทางครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น แต่ในท้ายที่สุดแล้ว หลายครอบครัวก็ย้อนกลับมาเป็นครอบครัวขยายที่มีคนอย่างน้อย 3 เจนฯ คือ ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ และลูกอยู่ร่วมกัน และในบางครอบครัวก็ยินดีที่จะปลูกบ้านในบริเวณเดียวกันกับพี่น้องเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
แปลนบ้านแบบ Cluster Home เป็นอย่างไร
ที่จริงแล้วแปลนบ้านแบบ Cluster Home ไม่ได้มีอะไรตายตัว แต่บ้านที่มีลักษณะเป็น Cluster จะมีลักษณะดังต่อไปนี้
- มีการจัดสรรพื้นที่ในลักษณะบ้านที่เป็นกลุ่ม และเป็นคอมมิวนิตี้ที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน
- มักใช้กำแพงหรือประตูร่วมกัน อย่างน้อย 1 ด้าน
- มีประตูหลัก (Main Gate) ที่ใช้ในการเข้ามาในพื้นที่
- แชร์สิ่งอำนวยความสะดวก และทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น ถนน พื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ ยิม สระว่ายน้ำ
- อาจจะมีการสร้างทางเดินเชื่อมต่อระหว่างกัน
- มีที่พักครอบครัวจำนวนไม่มาก
ข้อดีของ Cluster Home
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของคลัสเตอร์โฮมมีดังต่อไปนี้
- ประหยัดทรัพยากรและค่าดูแลรักษา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ถนน ทางเดิน หรือแม้แต่การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยบ้านในแต่ละหลังจะช่วยกันแชร์ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน
- อบอุ่นมากขึ้น เพราะคลัสเตอร์โฮมจะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ร่วมกัน ได้เจอหน้ากัน และพูดคุยกันมากขึ้น จึงเหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีหลายครอบครัวย่อยอยู่ด้วยกัน
- เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่แบบคนไทย โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน และมีพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละครอบครัว
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหญ่ขึ้น และหลากหลายมากขึ้น หากว่าเราสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้าน อาจจะสร้างสระว่ายน้ำขนาดเล็ก และห้องฟิตเนสได้นิดหน่อย แต่สำหรับคลัสเตอร์โฮมเราจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถใช้ด้วยกันได้แบบจัดเต็ม
Mulberry Grove ที่พักสำหรับครอบครัวย่านบางนา
Mulberry Grove เป็นแบรนด์บ้านซึ่งเป็นที่พักสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง โดยมีแนวคิดหลักคือ “Nurturing Intergeneration Happiness สานความสุข ให้ทุกเจนเนอเรชัน” ให้ทุกคนในครอบครัวสามารถสร้างความสุขและความทรงจำร่วมกันได้ในทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นโอกาสพิเศษ
การที่คนสามวัยอยู่ร่วมกัน จะช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างกัน เสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็ก ลดความเหงาและซึมเศร้าของผู้สูงอายุ รวมถึงการช่วยลดความเครียดและเหนื่อยล้าให้แก่พ่อแม่ในวัยทำงานอีกด้วย
จุดประสงค์หนึ่งของการสร้างแบรนด์บ้าน MULBERRY GROVE THE FORESTIAS ของ MQDC ขึ้นมา ก็เพราะว่าต้องการนำเสนอภาพของครอบครัวใหญ่ที่อยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้า ทั้งปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ลุงป้าน้าอาและลูกหลาน โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ได้สานสัมพันธ์และสร้างความสุขร่วมกัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก แต่เป็นการจัดสรรพื้นที่ส่วนรวมและส่วนตัวอย่างพอดี
สำหรับ Mulberry Grove ปัจจุบันมีทั้งหมด 2 โครงการ 2 ทำเลทอง ได้แก่
- Mulberry Grove Sukhumvit เป็นโครงการคอนโดแบบ High Rise ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย
- Mulberry Grove the Forestias แบ่งเป็นส่วนของวิลลาที่เป็นคลัสเตอร์โฮม และคอนโด Low Rise
พื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันใน Mulberry Grove the Forestias
The Foreatias เป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมถนนบางนา-ตราด มีทั้งโครงการที่อยู่อาศัย คอมมิวนิตี้มอลล์ และศูนย์การแพทย์อยู่ภายในพื้นที่ ในส่วนของที่พักอาศัยจะมีการเปิดพื้นที่ส่วนกลางให้กับลูกบ้านของทุกโครงการได้ใช้งานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นสวนป่าจำนวน 30 ไร่ ทางเดินคาโนปี สนามเด็กเล่น และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ลูกบ้านของทุกโครงการสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์จากต้นไม้นานาพรรณได้ทุกวัน แบบไม่ต้องเดินทางออกไปไหนไกล
นอกจากพื้นที่สวนจาก The Forestias แล้ว ในแต่ละโครงการของ Mulberry Grove ยังมีส่วนกลางที่ให้บริการลูกบ้านในโครงการ เช่น
- คลับเฮ้าส์
- พื้นที่รับประทานอาหาร
- ห้องประชุม และ Co-working Space
- ฟิตเนส สปา ห้องโยคะ
- สระว่ายน้ำ
- พื้นที่ออกกำลังกายอเนกประสงค์
- สนามเด็กเล่น
Mulberry Grove the Forestias
Mulberry Grove the Forestias แบ่งพื้นที่ออกเป็นทั้งหมด 2 โครงการ คือ Mulberry Grove the Forestias Condominiums และ Mulberry Grove the Forestias Villas ซึ่งทั้งสองโครงการมีแนวคิดในการพัฒนาร่วมกันคือ การสร้างที่พักสำหรับครอบครัวใหญ่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยจะเป็นการจัดสรรพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนอย่างลงตัว ตามแนวคิดหลักของ The Mulberry Grove โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Mulberry Grove the Forestias Condominiums เป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7-8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร ประกอบไปด้วยที่พักอาศัยทั้งหมด 269 ยูนิต มีห้องชุด 7 แบบให้เลือกตามความต้องการ โดยห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดคือ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 63 ตารางเมตร ส่วนห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือห้องเพนท์เฮาส์ ขนาด 1,016 ตารางเมตร
- Mulberry Grove the Forestias Villas เป็นวิลลาที่ออกแบบในรูปแบบของคลัสเตอร์โฮม จำนวน 37 หลัง โดยมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Roseberry ขนาด 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 1,204 ตร.ม. Visionberry 5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 1,246 ตร.ม. และ Legendberry 6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 1,724 ตร.ม. ซึ่งสามารถสร้างทางเดินเชื่อมบ้านแต่ละหลังได้ กรณีที่เป็นเครือญาติหรือเพื่อน
การกลับไปอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ โดยมีการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว เป็นหนึ่งในเป้าหมายของโครงการ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ภายใน Mulberry Grove เท่านั้น แต่ MQDC ยังพัฒนาทางเดินเชื่อมที่พักอาศัยของแต่ละโครงการใน The Forestias ที่ไม่ว่าจะอยู่ไหน ก็สามารถเชื่อมใจและสานสัมพันธ์คนในครอบครัวให้ถึงกันได้อย่างแน่นอน
Mulberry Grove ที่พักครอบครัวใหญ่ที่ช่วยสานความสุข ให้ทุกเจนเนอเรชัน ท่านที่สนใจสามารถนัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการ หรือโทรศัพท์ 1265 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม