สำหรับชีวิตคนเมือง การได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ได้ยินเสียงนกร้องในยามเช้า และได้ยินเสียงจิ้งหรีดเรไรในเวลากลางคืน มักเป็นช่วงเวลาที่เราออกเดินทางไปยังพื้นที่ตามต่างจังหวัดที่ห่างไกลจากตัวเมืองและแสงสี แต่จะดีแค่ไหน หากว่าเรามีที่พักธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถได้ยินเสียงนกก่อนไปทำงานในตอนเช้า สูดออกซิเจนได้เต็มปอดก่อนออกไปทำงาน และนอนหลับท่ามกลางเสียงธรรมชาติในทุกคืน และที่สำคัญคือ ได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางครอบครัวที่เรารัก
Mulberry Grove the Forestias ที่พักธรรมชาติที่ไม่ได้เป็นเพียงรีสอร์ตส่วนตัว แต่ยังเป็น “บ้าน” ที่ทุกคนได้อยู่อาศัย ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของคนในครอบครัวในทุกเจเนอเรชั่น
ออกแบบพื้นที่ส่วนตัวและส่วนรวมอย่างลงตัว
Mulberry Grove แบรนด์ในเครือ MQDC ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “สานความสุขให้คนทุกเจเนอเรชั่น” แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด ตรงที่ได้นำเอาคอนเซปต์ของบ้านคนไทยสมัยเก่า ที่มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนมีเรือนแยกเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน
ด้วยเหตุนี้ Mulberry Grove จึงออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างพิถีพิถัน โดยออกแบบพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมเอาไว้อย่างลงตัว เพิ่มความสุข ช่วยถักทอสายใยให้ครอบครัวได้อยู่ร่วมกัน ตามแนวคิด Nurturing Intergeneration Happiness โดยมีหัวใจในการออกแบบ 4 ข้อ ดังต่อไปนี้
- Designed for Intergeneration Harmony ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว โดยเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับคนทุกวัย เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเจนฯ ใดก็ตาม
- Caring Community ออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว ในส่วนของวิลลาจะมีโถงกลางบ้านที่สามารถรับประทานอาหารร่วมกัน จัดปาร์ตี้ ดูภาพยนตร์ เล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีสำหรับคนในครอบครัว
- Value Creation Neighborhood เพิ่มคุณค่าทางจิตใจและเศรษฐกิจให้กับครอบครัวและสังคม โดยการอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวใหญ่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและจิตใจให้ดียิ่งขึ้น มีการถ่ายทอดความรู้ ความคิด และความสัมพันธ์จากรุ่นสู่รุ่น
- Dimensional Well-Being ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาช่วยในการดูแลสุขภาพ ไม่ก่อมลพิษ และออกแบบบ้านให้อยู่สบายตามหลัก Universal Design เพื่อให้คนสูงวัยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ส่วนกลางที่มีกิจกรรมสำหรับคนทุกเพศทุกวัย
ไม่เพียงแต่พื้นที่ในบ้านเท่านั้นที่ออกแบบเพื่อคนทุกเจเนอเรชั่น แต่พื้นที่นอกบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันยังถูกออกแบบสำหรับทุกคนในครอบครัว ให้ได้ใช้ชีวิตและทำกิจกรรมร่วมกัน ประหนึ่งการเดินทางออกไปใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติทุกวัน
ตัวอย่างพื้นที่ส่วนกลางใน Mulberry Grove
- Mulburry Reserve Club พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันสำหรับทุกคนในครอบครัว
- The Play Room (Kids Room) พื้นที่วิ่งเล่นสำหรับเด็ก ๆ
- The Studio (Exercise Area) พื้นที่ออกกำลังกายสำหรับคนทุกวัย
- Yoga Room ห้องโยคะท่ามกลางธรรมชาติอันแสนร่มรื่น
- Stream Room and Sauna ช่วยสร้างภูมิต้านทาน และช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น
- Swimming Pool สระว่ายน้ำที่อยู่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ
ที่พักธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่อยู่ได้ทุกวัน
ไม่ต้องออกเดินทางไปไกล ไม่ต้องเดินทางไปที่ไหน เราก็สามารถได้พักอยู่ในที่พักธรรมชาติได้ทุกวัน ใกล้กรุงเทพฯ อีกทั้งยังใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Mega Bangna และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail) ตัดผ่านหน้าโครงการทำให้การเดินทางไปทำงานและเรียนสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Mulberry Grove เป็นหนึ่งในโครงการบ้านที่อยู่ในพื้นที่ของโครงการ The Forestias ที่ได้สร้างสรรค์สวนป่าจำนวน 30 ไร่ในโครงการ โดยปลูกต้นไม้น้อยใหญ่ รวมถึงดอกไม้นานาพรรณทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นปอดขนาดใหญ่ที่ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์และช่วยให้อุณหภูมิภายในโครงการเย็นสบายกว่าภายนอกถึง 2-3 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ภายในโครงการ Muberry Grove ยังปลูกต้นไม้และมีบ่อน้ำที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศและความสดชื่นภายในโครงการอีกด้วย
สวนป่า 30 ไร่
พื้นที่กว่า 56% ของพื้นที่ภูมิทัศน์ทั้งหมดในโครงการ The Forestias ได้ถูกรังสรรค์ให้เป็นผืนป่าและพื้นที่สีเขียว ที่คน สัตว์ และพืชพรรณต่าง ๆ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
- ผืนป่าใจกลางโครงการ เชื่อมต่อทุกโครงการใน The Forestias ไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่อาศัยที่โครงการใดในพื้นที่ ก็สามารถใช้งานพื้นที่สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์นี้ร่วมกันได้ โดยได้สร้างทางเดิน Canopy ที่ทอดยาวไปในผืนป่าในความสูงระดับยอดไม้ (ประมาณ 8-12 เมตร) ให้ผู้อยู่อาศัยได้เดินเล่นและชื่นชมความงามของธรรมชาติได้ทุกวัน ไม่ต้องรอวันหยุดอีกต่อไป
ในช่วงเวลากลางวันเราสามารถมองเห็นผีเสื้อและนกบินอยู่ในผืนป่า ส่วนในช่วงกลางคืน เราจะเห็นหิ่งห้อยตัวน้อย ๆ ที่คอยส่องแสงให้ป่ามีประกายระยิบระยับดุจการเดินอยู่ท่ามกลางดวงดาวบนทางช้างเผือก
- เขตป่าลึก พื้นที่ของต้นไม้ใหญ่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ที่เป็นบ้านของสัตว์นานาชนิดให้สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบ ปราศจากการรบกวนของมนุษย์ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะไม่อนุญาตให้ผู้ที่อยู่อาศัยเข้าไปในพื้นที่ได้ มีเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่สามารถเข้าไปดูแลสัตว์และต้นไม้ที่อยู่ภายใน
- ลานกิจกรรม ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สามารถนั่งฟังเพลง ปิกนิก แคมป์ปิ้ง เดินเล่น พาเด็ก ๆ มาปล่อยพลัง หรือแม้กระทั่งการจัดงานแต่งงานน่ารัก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าขนาดใหญ่ ในบรรยากาศอันอบอุ่น
- ฟอเรสต์ พาวิลเลียน ศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศที่ยั่งยืน ส่งเสริมให้คนทั่วไปสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ และอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล
สวนขนาดใหญ่ใน Mulberry Grove
ไม่เพียงแค่ผืนป่าที่ใช้ร่วมกันทุกโครงการเท่านั้น แต่ภายในโครงการ Mulberry Grove ที่อนุญาตให้เฉพาะลูกบ้านเข้าไปใช้บริการได้นั้น ยังได้ปลูกต้นไม้ใหญ่ภายในโครงการ ทำให้วิลลาทุกหลัง และคอนโดทุกห้อง สามารถชมวิวแบบพาโนรามาของผืนป่าในโครงการผ่านระเบียงกว้างได้ทุกเช้าอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีทางน้ำภายในโครงการ และทางเดินที่เชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ทุกก้าวย่างคือชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างที่สุด
การออกแบบที่คำนึงถึงสุขภาวะของผู้ที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ
Mulberry Grove ได้ออกแบบที่อยู่อาศัย 2 รูปแบบ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการในการใช้ชีวิต ได้แก่ วิลลา และคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Mulberry Grove The Forestias Villas
วิลลาท่ามกลางธรรมชาติที่มีเพียง 37 หลังในโครงการ ซึ่งเป็นรูปแบบของคลัสเตอร์โฮม บ้านที่เชื่อมต่อกันได้เหมือนสายสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่ไม่เลือนหาย โดยได้ออกแบบพื้นที่เพื่อการใช้ชีวิตที่เป็นสุขของทุกคนในครอบครัว โดยมีจุดเด่นดังต่อไปนี้
- ออกแบบแปลนบ้านเป็นกลุ่มสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่สามารถเชื่อมต่อบ้านแต่ละหลังด้วยสะพาน ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ว่าจะอยู่วิลลาคนละหลังก็ตาม
- พื้นที่ชานต้อนรับหน้าบ้าน เฉกเช่นเดียวกับบ้านคนไทยสมัยก่อน ที่มักจะรับแขกในพื้นที่ชานบ้าน และในวันครอบครัวก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ภายในครอบครัว
- โถงกลางบ้าน Common room ที่ครอบครัวได้ใช้ชีวิตและพบปะกันในทุกวัน ทั้งการรับประทานอาหาร พูดคุย หรือชมภาพยนตร์
- ตัววิลลายกพื้นสูง เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ช่วยระบายอากาศและความร้อนได้ดี ซึ่งเหมือนกับบ้านไทยสมัยโบราณที่มักจะมีให้ลมจากภายนอกไหลใต้ตัวบ้าน ช่วยทำให้บ้านเย็นสบาย ไม่อบอ้าว
- ออกแบบให้มีการซ่อมบำรุงจากภายนอกอาคาร ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมภายในบ้าน
- LEED HOME Standard ที่แรกในไทย เป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้พลังงาน มีการคำนวณค่าความร้อน เลือกวัสดุและเพิ่มชั้นของผนังที่ช่วยลดความร้อน พร้อมนวัตกรรมระบบปรับอากาศที่ทำให้พื้นบ้านเย็นตามธรรมชาติ รวมถึงการเตรียมระบบเพื่อรองรับการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือ Solar Cell
Mulberry Grove The Forestias Condominiums
สำหรับครอบครัวขยายที่มีสมาชิกในบ้านน้อย หรือเล็กลงมาหน่อย แต่ก็ยังคงต้องการอยู่ร่วมกันหลายเจเนอเรชั่น เรามีคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ที่ผสมผสานพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างลงตัวไม่แพ้กับวิลลา โดยมีจุดเด่นดังต่อไปนี้
- กระจก IGU ขนาด Full Height เปิดรับวิวธรรมชาติแบบพาโนรามาได้ทุกวัน โดยเราสามารถนั่งรับลม ชมวิวผืนป่า ไปพร้อมกับการนั่งจิบกาแฟชิลล์ ๆ ยามเช้า หรือรับประทานอาหารมื้อเช้าได้อย่างมีความสุข เหมือนใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ตส่วนตัวทุกวัน
- พื้นที่ส่วนกลางนอกห้อง รับลมธรรมชาติ มีอากาศถ่ายเทในอาคารตลอดทั้งวัน ช่วยระบายอากาศ ไม่ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว
- ที่จอดรถ 180% มากกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไปหลายเท่า รองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่
ใครที่ชอบอยู่ท่ามกลางผืนป่าและธรรมชาติ สดับฟังเสียงนกร้องในยามกลางวัน เสียงจิ้งหรีดเรไรในยามกลางคืน เราขอแนะนำโครงการ Mulberry Grove The Forestias ที่ที่สมาชิกในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่นได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ท่านที่สนใจสามารถนัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการ หรือโทรศัพท์ 1265