สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ชอบความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบาย คอนโดมิเนียมคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการเลือกซื้อที่พักอาศัย แต่จะเลือกคอนโดมิเนียมอย่างไร และย่านไหน ถึงจะอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว เข้ากับไลฟ์สไตล์ วันนี้เราจะมาบอกถึงข้อดีของการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมย่านบางนา และเคล็ดลับการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมมาฝากกัน
“บางนา” ทำเลทองใหม่ของเมืองกรุง
เราทุกคนทราบกันดีว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองโตเดี่ยว และมีการขยายตัวไปยังพื้นที่ในเขตปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการพัฒนาเมืองไปยังพื้นที่โดยรอบมากขึ้น
หนึ่งในพื้นที่ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก็คือ “ย่านบางนา” ซึ่งนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มาเปิดแล้ว ยังมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือแม้แต่คอนโดมิเนียมหรู เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? วันนี้เราจะมาเฉลยให้ทุกคนได้ทราบกันว่า ทำไมบางนาจึงกลายเป็นทำเลศักยภาพใหม่ของเมืองกรุง
1. มีการเจริญเติบโตด้านประชากรและศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง
เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าย่านบางนา โดยเฉพาะถนนบางนา-ตราด นั้นเต็มไปด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเมกะบางนา, เซ็นทรัลบางนา, แบงค็อก มอลล์ รวมไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอย่างท็อป, วิลล่ามาร์เก็ต, โลตัส, บิ๊กซี และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น IKEA, Index Living Mall, SB Furniture, Chic Republic, HomePro จึงทำให้ย่านนี้เป็นย่านที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
2. เป็นทำเลที่เชื่อมต่อกับภาคตะวันออกของประเทศ
เราทราบกันดีว่า พื้นที่ภาคตะวันออก ไม่ได้เป็นเพียงเมืองท่องเที่ยวทางทะเลเท่านั้น หากแต่ยังเป็นพื้นที่ของเขตอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่ในยุคของโครงการ Eastern Seaboard มาจนถึงโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ในปัจจุบัน ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกหลักอย่างท่าเรือแหลมฉบังของประเทศ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่เชื่อมต่อการค้าการลงทุนกับนานาชาติ
ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ย่านบางนาจึงกลายเป็นทำเลศักยภาพในการเชื่อมต่อพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครกับพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจที่มีความสำคัญและมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
3. เข้าเมืองง่าย พักผ่อนก็ไม่ไกล
ย่านบางนาเป็นพื้นที่ที่มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกและครอบคลุมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเพื่อเดินทางเข้าไปทำงานในเขตกรุงเทพฯ หรือจะเป็นเส้นทางถนนที่เชื่อมต่อทั้งในเขตเมือง หรือออกไปยังนอกเมืองก็ตาม ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ และอีกไม่นานก็จะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟความเร็วสูงที่สามารถใช้ในการเดินทางไปทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบาย ทำให้ไม่ว่าจะเป็นวันทำงานที่ต้องเข้าไปในเมือง หรือวันหยุดที่ต้องการพักผ่อนก็สามารถขับรถออกไปนอกเมืองได้แบบสบาย ๆ
ทั้ง 3 ข้อนี้ เป็นเหตุผลเบื้องต้นที่ทำให้ย่านบางนากลายเป็นพื้นที่ศักยภาพและเป็นทำเลทองที่ใคร ๆ ก็อยากจะจับจองเป็นเจ้าของ
เคล็ดลับการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมย่านบางนา
ด้วยความที่ย่านบางนาเป็นทำเลทองที่หลายคนจับจอง ทำให้มีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ชูจุดขายว่าใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ หรือศูนย์การค้าเมกะบางนา แต่การเลือกคอนโดย่านนี้ เราจะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง เรามีเคล็ดลับมาฝากกัน
1. ทำเลที่ตั้ง
แม้ว่าจะอยู่ในย่านบางนาเช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องพิจารณาทำเลที่ตั้งของแต่ละโครงการด้วย เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายสมดังที่ตั้งใจไว้ โดยมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาในเรื่องของทำเลที่ตั้งดังต่อไปนี้
- เดินทางสะดวกหรือไม่ เพราะบางโครงการแม้ว่าจะอยู่ย่านบางนาแต่เข้าซอยลึก กว่าจะเดินทางออกมายังถนนหลักต้องเหนื่อยรอรถ บางครั้งแม้ว่าจะใช้รถส่วนตัวก็ต้องประสบกับปัญหารถติดในซอย ทำให้เสียเวลาในการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน ทางที่ดีที่สุดคือ เลือกโครงการที่ติดถนนใหญ่ หรือเข้า-ออกสะดวก ไม่มีปัญหาการเดินทางหรือรถติดในซอย
- อยู่ใกล้ศูนย์การค้า หรือตลาดหรือไม่ ความสะดวกในการใช้ชีวิตไม่ใช่แค่เรื่องการเดินทาง แต่ยังรวมถึงเรื่องความเป็นอยู่อย่างอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมหลายแห่งในปัจจุบันได้จัดให้มี Community Mall หรือศูนย์การค้าภายในโครงการ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ที่อยู่อาศัย ไม่ต้องเดินทางไกลไปซื้อของเพื่ออุปโภคบริโภค
- อยู่ใกล้โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลคุณภาพ ในยามเจ็บป่วย หรือในยามฉุกเฉินโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้และพร้อมรับผู้ป่วย 24 ชม. จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ผู้ที่พักอาศัย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เหตุฉุกเฉินจะมาเมื่อไร การมีโรงพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ ไว้ ก็จะอุ่นใจกว่านั่นเอง
- สถานศึกษาอยู่ไม่ไกล ข้อนี้สำคัญมากสำหรับผู้ที่มีลูกหรือผู้ที่วางแผนจะมีลูก เพราะการศึกษาที่ดีจะเป็นพื้นฐานที่ช่วยต่อยอดความสำเร็จในอนาคต และคงไม่ดีแน่หากเด็ก ๆ จะต้องเหนื่อยกับการเดินทางจนทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียน ดังนั้น คอนโดที่อยู่ใกล้กับสถานศึกษา หรือสามารถเดินทางไปเรียนได้อย่างสะดวกจึงเป็นตัวเลือกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่
นอกจากการดูสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้กับโครงการแล้ว การเลือกคอนโดมิเนียมที่เป็นโครงการ Mixed-used ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงพยาบาล หรือสถานศึกษา ก็ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
2. Facility ของโครงการเป็นอย่างไร
การซื้อคอนโดมิเนียม พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีความสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเรา โดยเราควรจะพิจารณาพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกดังต่อไปนี้
- พื้นที่จอดรถ จะต้องมีเพียงพอต่อความต้องการ โดยทั่วไปควรจะมองหาคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จอดรถมากกว่า 50-60% ของจำนวนยูนิต เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแย่งชิงพื้นที่ในการจอดรถมากจนเกินไปนัก
- พื้นที่สีเขียว ยิ่งมีมากยิ่งดี เพราะแม้บางคนจะบอกว่าตัวเองอยู่แต่ในห้อง แต่การมีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก จะส่งผลให้อากาศโดยรอบดีขึ้น ฝุ่นละอองน้อยลง อุณหภูมิเย็นลง และมีผลทำให้สุขภาพจิตดีมากขึ้นอีกด้วย
- ฟิตเนสและพื้นที่ออกกำลังกาย ต้องมีอย่างเพียงพอต่อจำนวนของลูกบ้าน และหากมีพื้นที่ในการวิ่ง Outdoor หรือพื้นที่ออกกำลังกายอื่น ๆ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เราสามารถออกกำลังกายได้มากยิ่งขึ้น
- การรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีความเข้มงวดกวดขัน มีกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ ของโครงการ และต้องมีไฟฟ้าส่องสว่างอย่างเพียงพอ
- ระบบเตือนภัย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนไฟไหม้ ควรจัดให้มีบันไดหนีไฟที่ถูกต้องตามจุดต่าง ๆ
- จำนวนลิฟต์ คงจะไม่ดีแน่ หากว่าในเวลาเร่งรีบเราต้องรอลิฟต์เป็นเวลานาน ๆ โดยจำนวนที่เหมาะสมควรอยู่ที่ลิฟต์ 1 ตัวต่อ 100-150 ยูนิต
แน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวกยิ่งมากยิ่งดี แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาควบคู่กันไปคือการบำรุงรักษา ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้จากโครงการที่ผ่านมาของบริษัทชั้นนำที่เราสนใจนั่นเอง
3. การเลือกตำแหน่งของห้องที่เหมาะสม
การเลือกตำแหน่งของห้องในคอนโดมิเนียมเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาก ว่าตำแหน่งไหนคือตำแหน่งที่ดีที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราควรเลือกตำแหน่งของห้องที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชอบของตัวเอง
- ชอบความเป็นส่วนตัว ให้เลือกห้องริม หรือห้องที่ติดกันคนอื่นเพียงด้านเดียว แม้ว่าห้องหัวมุมจะมีราคาและขนาดห้องที่แพงกว่าห้องที่อยู่ตำแหน่งอื่น ๆ แต่หากแลกกับความเป็นส่วนตัวก็ค่อนข้างจะคุ้มค่า หรืออาจจะลองเลือกห้องที่ติดกับบันไดหนีไฟที่ราคาถูกลงมาหน่อยก็จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องที่มีเพื่อนบ้านทั้งสองด้าน
- ไม่ชอบแดด หรือขี้ร้อน ให้เลือกห้องที่อยู่ทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่หลบแดด หรือให้เลือกห้องที่โดนเงาอาคารพาดผ่าน หรือให้เลือกห้องมุมในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่แม้ว่าจะมีแดดแต่ก็ได้ลมพัดเย็นสบายทดแทน
- สาย Chill ชอบมองวิวทิวทัศน์ อันนี้มีให้เลือกหลายวิว ทั้งวิวสวน วิวสระว่ายน้ำ วิวเมือง ซึ่งให้เราเลือกได้ตามชอบ
นอกจากนี้อาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เรานำมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นความสูงของชั้น ซึ่งบางคนไม่ชอบห้องที่อยู่สูงจนเกินไปนัก หรือบางคนชอบห้องชั้นล่างเพราะไม่ชอบใช้ลิฟต์ ก็สามารถเลือกได้ตามใจเรา หรือถ้าคนที่ชอบออกกำลังกาย หรือใช้พื้นที่ส่วนกลางบ่อย ๆ อาจจะเลือกห้องหรือชั้นที่อยู่ใกล้กับห้องฟิตเนสเพื่อความสะดวกสบาย
4. เลือกขนาดของห้องที่เหมาะสมกับครอบครัว
สิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าข้ออื่น ๆ เลยก็คือ การเลือกขนาดและแปลนของห้องให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกของครอบครัว
หากว่าเราใช้ชีวิตอยู่คนเดียว การอยู่ห้องแบบสตูดิโออาจจะไม่แย่จนเกินไปนัก แต่หากว่าเรามีครอบครัว หรือวางแผนว่าจะมีลูก เราก็ต้องเตรียมห้องไว้อย่างน้อย 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และ 2 ห้องน้ำเป็นอย่างน้อย เพื่อให้เราและเด็ก ๆ มีทั้งพื้นที่ส่วนตัว และมีพื้นที่ส่วนรวมในการทำกิจกรรมร่วมกัน
5. อย่าลืมดูเรื่องขนาดของพื้นที่สีเขียว
สุดท้ายแล้ว พื้นที่สีเขียวก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกคอนโดมิเนียม เพราะพื้นที่สีเขียวนอกจากจะช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังส่งผลต่อจิตใจ ให้คลายความเครียดและความกังวลลงไปด้วย
โดยปกติแล้ว ตามกฎหมายคอนโดจะต้องมีพื้นที่สีเขียว 3-5 ตารางเมตรต่อ 1 ยูนิต ซึ่งเราสามารถสอบถามจำนวนยูนิตกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อคำนวณพื้นที่สีเขียวที่ควรจะได้รับคร่าว ๆ ได้ แต่ทางที่ดี เราควรจะเลือกคอนโดที่มีพื้นที่สีเขียวจำนวนมากที่สุด เรียกว่ายิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดี เหมือนโครงการของ The Forestias ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนสาธารณะ แต่เรายังมีป่ากลางกรุงมากกว่า 30 ไร่ ให้ทุกคนได้มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน
หากว่าใครกำลังมองหาคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัย หรือคอนโดน่าลงทุนย่านบางนา เราขอแนะนำ The Whizdom The Forestias ที่แบ่งเป็น 2 โครงการ 3 อาคาร คือ Destinia และ Mytopia Tower คอนโดมิเนียมที่มาพร้อมกับวิวสวนที่มองเห็นพื้นที่สีเขียวจากหน้าต่างห้องทุกห้อง และ Petopia Tower คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ให้คุณเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของครอบครัว