ลงทะเบียน

วิสัยทัศน์โครงการ

เพื่อสร้างสรรค์รูปแบบการดำเนินชีวิตและการอยู่อาศัยของผู้สูงวัย ด้วยการดูแลตลอดชีวิต ภายใต้แนวคิด age-in-place ที่ผู้สูงวัยจะพบกับความสุข และเติมเต็มคุณค่าความหมาย ของชีวิต ด้วยการสร้างสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ ครอบครัว และสังคม

พันธกิจโครงการ

  • พัฒนาปรัชญาการบริการเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้สูงวัย

  • มอบการดูแลในแบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และการเงินอย่างยั่งยืนตลอดชีวิต

  • สร้างประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมด้วยการพัฒนามาตรฐานด้านการออกแบบและเทคโนโลยีสำหรับแนวคิด Age-in-place

  • สร้างศูนย์กลางความรู้สำหรับการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงวัย

แนวคิดโครงการ

EMPOWERING

เรามุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อให้บริการด้านต่าง ๆ อาทิจัดหาเครื่องมืออำนวยความสะดวก สร้างรูปแบบการเรียนรู้ จัดสรรทรัพยากร สร้างระบบการทำงาน และอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ของเราสามารถดูแลผู้อยู่อาศัยในโครงการได้อย่างทั่วถึง เพราะเราเชื่อว่าทั้งหมดนี้คือส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกชีวิตภายในโครงการ

แนวคิดโครงการ

JOYFUL

เรามุ่งมั่นในการมอบบริการเพื่อสร้างความประทับใจอย่างยาวนานและเติมเต็มทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัย ซึ่งไม่เพียงแค่ผู้อยู่อาศัยเท่านั้น เรายังต้องการสร้างความสุขและประโยชน์ให้กับสังคมหมู่มากผ่านทุกกิจกรรมของโครงการอีกด้วย

แนวคิดโครงการ

CARING & NURTURING

เราทุ่มเทเพื่อมอบทุกองค์ประกอบที่จำเป็นทางด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของผู้อยู่อาศัย

Brand Concept

VISIONARY

เรามุ่งมั่นในการดำเนินงาน เพื่อนำเสนอแนวทางและวิธีการใหม่ ๆ ซึ่งรวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในโครงการ

พันธมิตรทางธุรกิจ

ดิ แอสเพน ทรี มีความภาคภูมิใจในการพัฒนาความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำต่างๆ
รวมถึงผู้ให้บริการและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงวัย

ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC)

ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) คือศูนย์กลางการแบ่งปันข้อมูลและความรู้ด้านนวัตกรรมสำหรับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของวิถีการใช้ชีวิตประจำวันที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ภายในศูนย์ฯ ประกอบด้วยนักวิจัยด้านต่าง ๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และระบบนิเวศที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ข้อมูลด้านวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ศูนย์ RISC มีการนำผลวิจัยจาก Harvard TH Chan School of Public Health มาใช้ในการพัฒนาเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ
ดิ แอสเพน ทรี เพื่อให้แน่ใจถึงการสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ นอกจากนี้ศูนย์ภูมิอากาศ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมโลก หรือ Center for Climate, Health and the Global Environment (C-CHANGE) (โดย Harvard School of Public Health) ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยพื้นที่ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ เพื่อพิจารณาถึง
ผลกระทบของสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย นับได้ว่าดิ แอสเพน ทรี หนึ่งในโครงการที่อยู่อาศัยหลักของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้ให้ความสำคัญกับการทำงานวิจัยร่วมกับสถาบันระดับโลกเพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคนภายในโครงการ

Baycrest

เบย์เครสต์ ตั้งอยู่ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา โดยได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 100 ปี ถือเป็นผู้นำระดับโลกด้านที่พักอาศัยของผู้สูงวัย รวมถึงการดูแลสุขภาพ งานวิจัย นวัตกรรม และการศึกษา ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านอายุรศาสตร์และสภาวะสมอง

โดยปัจจุบันเบย์เครสต์ดูแลผู้สูงวัยในแต่ละวันมากกว่า 1,500 คน ด้วยการให้บริการดูแลในหลายด้านจากทีมสหวิทยาการที่ประกอบด้วยบุคคลกรกว่า 2,000 คน โดยเบย์เครสต์เชื่อว่าผู้คนทุกช่วงวัยสมควรได้รับการยอมรับจากสิ่งที่พวกเขาเป็นและสามารถเลือกรูปแบบชีวิตที่ต้องการได้จากศักยภาพที่มี ไม่ใช่จากข้อจำกัดที่เป็นอยู่ ภายใต้วิสัยทัศน์การดำเนินงานเพื่อสร้างโลกให้กับผู้สูงวัยให้สามารถมีช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในชีวิต รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจและเติมเต็มทุกความต้องการ ซึ่งทางเบย์เครสต์เห็นถึงความสำคัญขององค์ประกอบเหล่านี้จึงมอบบริการสุดพิเศษมากมายจากการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในบริการด้านสุขภาพที่มาจากการศึกษาและงานวิจัยที่ทันสมัย

โดยเบย์เครสต์ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในองค์กรด้านการดูแลผู้สูงวัยเฉพาะทางที่ดีที่สุดในโลกจาก Newsweek Magazine’s World’s Best Hospitals 2019 Report และยังได้รับการรรับรองในระดับโลกจากรางวัล Exemplary standing ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดที่บ่งบอกถึงการดำเนินงานอย่างมีจุดยืนที่มุ่งมั่นและชัดเจนจากสถาบัน Accreditation Canada

นอกจากนี้เบย์เครสต์ยังร่วมทำงานกับมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ทางด้านงานวิจัยของแคนาดา โดยเบย์เครสต์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 5 อันดับแรกขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับการทำวิจัย ปัจจุบันเบย์เครสต์มีงานวิจัยต่อเนื่องมากกว่า 300 งานที่มุ่งเน้นไปทางด้านสุขภาพผู้สูงวัยและเป็นสถาบันวิจัยทางด้านผู้สูงวัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะสมองและผู้สูงวัยที่ได้รับการยอมรับ ทำให้เบย์เครสต์ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาล สถาบันการศึกษา และองค์กรภาคเอกชนเกี่ยวกับนโยบายการดูแลสุขภาพและรูปแบบนวัตกรรมในการดูแลผู้สูงวัย โดยในปี 2561 รัฐบาลแคนาดาได้แต่งตั้ง ดร.วิลเลียม อี ไรซ์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานผู้อำนวยการ เบย์เครสต์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมของคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีด้านภาวะสมองเสื่อมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยเบย์เครสต์ได้ฝึกอบรมนักเรียนกว่า 1,500 คนต่อปี จากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย 50 แห่งทั่วโลกในการดูแลผู้สูงวัย

เบย์เครสต์รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับ MQDC ในการพัฒนาโครงการดิ แอสเพน ทรี ซึ่งการทำงานในครั้งนี้จะก่อให้เกิดสังคมผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ ผ่านโปรแกรมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ด้วยการใช้แนวทางการปฏิบัติจากงานวิจัยที่ดีที่สุด…อ่านเพิ่มเติม

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เป็นสถาบันอุดมศึกษา ที่ก่อตั้งโดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยเป็นศูนย์ฝึกอบรมและจัดหาบุคลากรสำหรับบริษัท CP ALL จำนวนมากถึง 120,000 คน

โดยสถาบันดำเนินงานตามแนวทาง “Work Based Learning” คือการเรียนรู้จาก ประสบการณ์ทำงานจริง ที่ให้นักเรียนได้ฝึกงานเพื่อหาประสบการณ์การทำงานในบริษัทเครือ ซีพี ออลล์ และบริษัทพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งนี้นักเรียนจะอยู่ภายใต้การดูแลของของผู้เชี่ยวชาญ จากสถาบันฯ ในระหว่างฝึกงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดประสบการณ์เรียนรู้จากการ ทำงานจริง เมื่อนักเรียนจบการศึกษาออกไปจะได้เข้าใจวิธีการที่ใช้จัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมจริงจากการทำงานที่ตรงกับสาขาอาชีพของนักเรียน

ดิ แอสเพน ทรี ได้จับมือกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานในการ ดูแลผู้สูงวัยระดับโลกให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยการเปิดหลักสูตรผึกอบรมบุคลากรเพื่อการ ดูแลผู้สูงวัยในรูปแบบใหม่​
new person-centered model หรือแนวทางการ ปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ให้คนเป็นศูนย์กลาง

เมืองไทยประกันชีวิต

บริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินธุรกิจการบริการเพื่อคนไทย ภายใต้พันธสัญญาด้านการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบบริการคุณภาพดีที่สุดให้กับลูกค้า พร้อมส่งเสริมและตอบสนองต่อความต้องการอย่างครบวงจรแก่ลูกค้าและผู้คนมากมาย ดังนั้นบริษัทฯ จึงสร้างความแตกต่างในตัวธุรกิจ ด้วยการพัฒนาช่องทางบริการในรูปแบบ “Multi Distribution Channels, Multi Targets” กับกลยุทธ์ทางการตลาดที่บริษัทฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ในการสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายบริการที่มั่นคงและมีความหลากหลายในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ขยายการให้บริการเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงได้ร่วมกับพันธมิตรทาง ธุรกิจมากมายที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุน การเติบโตในภาคธุรกิจ

ดิ แอสเพน ทรี ผนึกกำลังกับ “เมืองไทยประกันชีวิต” ส่งมอบความคุ้มครองสุขภาพ “อีลิท เฮลท์” ซึ่งโดดเด่นด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมการเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรง โรคทั่วไป และโรคระบาด รวมทั้งอุบัติเหตุ ให้กับลูกค้าโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญของการ ตอบรับการก้าวเข้าสู่ยุคของสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้าผู้ที่ต้องการวางแผนการใช้ชีวิตในระยะยาว ผ่านความคุ้มครองเหนือระดับ ซึ่งสอดคล้อง ความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กร ที่ให้ความสำคัญกับการเข้าสู่ยุคของสังคมผู้สูงวัยมาโดยตลอด

Perkins Eastman

ที่ Perkins Eastman เราเชื่อว่าการออกแบบเป็นกระบวนการของผู้คนและทำโดยผู้คน จากการทำงานใกล้ชิดกับลูกค้าและทุกภาคส่วน ทำให้เราสามารถกำหนดเป้าหมายร่วมกัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและค้นหาวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพในทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำนักงาน โรงพยาบาล โรงเรียน หรือแผนแม่บทการสร้างเมือง เราจะมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของกระบวนการออกแบบ เพราะผู้คนคือหัวใจสำคัญต่อการทำงานของเรา

Perkins Eastman คือบริษัทออกแบบระดับโลกที่มีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับทุกคน เราคือเครือข่ายของนักคิด นักสร้างสรรค์ที่ลงมือทำจริงกว่า 1,000 คน กระจายอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงานกว่า 16 แห่งและอยู่ในสตูดิโอกว่า 19 แห่งทั่วโลก แม้ว่าการทำงานของเราจะอยู่ในระดับโลก แต่แนวทางของเรายังคงให้ความสำคัญต่อความต้องการของคนในท้องถิ่น เราสร้างพื้นที่เพื่อให้คนได้ใช้ชีวิต เรียนรู้ ทำงาน เล่น และเติมความสุขให้กับชีวิต ทุกที่ที่เราออกแบบเราจะศึกษาบริเวณนั้นอย่างลึกซึ้ง ทั้งด้านงานสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม นักออกแบบของเราจะผสมผสานงานวิเคราะห์ร่วมกับเทคนิค และเทคโนโลยี เพื่อสร้างผลงานที่สามารถเกิดประโยชน์ต่อผู้คนและใช้งานได้จริง

นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม เรามุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนให้กับคุณภาพชีวิตของผู้คนและโลก เราออกแบบประสบการณ์การใช้ชีวิตในแต่ละวัน ถ้าทุกอย่างคือการออกแบบ ทุกสิ่งที่เราทำคือการออกแบบเพื่อทุกคน

INTERNATIONAL WELL BUILDING INSTITUTE(IWBI)

มาตรฐาน WELL Building Standard โดย IWBI เริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 2014 หลังจากการศึกษาและพัฒนากว่า 6 ปี เพื่อให้เป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับอาคาร พื้นที่ภายในอาคารแบบต่างๆ และพื้นที่สาธารณะที่ต้องการปรับใช้รับรอง หรือตรวจวัดคุณสมบัติต่างๆ ของโครงการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในอาคาร
ผู้มาเยือน และ สังคมโดยรอบ

โดยเกณฑ์ WELL Building Standard ประกอบด้วยข้อกำหนด 10 หัวข้อ โดยเป็น ระบบการชี้วัดที่เข้มงวดสำหรับพื้นที่ทั้งภายนอกและภายในอาคาร โดย WELL Building Standard จะตรวจวัดทั้งคุณภาพอากาศ ค่าความร้อน แสง ปัจจัยทางชีวภาพต่างๆ และ ปัจจัยด้านสุขภาพ เกณฑ์ชี้วัดที่เป็นองค์รวมนี้จะช่วยให้ทุกคนในโครงการสามารถใช้ชีวิตอย่าง มีสุขภาพดี แข็งแรง และเติมเต็มทุกเป้าหมายได้

MQDC และ International WELL Building Institute (IWBI) เล็งเห็น ความสำคัญในการสร้างอาคารที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในการยกระดับความสะดวกสบาย เพื่อมุ่งไปสู่ทางเลือกคุณภาพชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ จึงได้ลงนามในหนังสือแสดง เจตจำนงร่วมกัน โดย MQDC วางเป้าหมายพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ด้วยมาตรฐาน WELL Building Standard

MQDC
การยืนยัน