เมื่อเราถึงวัย 50+ ชีวิตบทใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น เป็นช่วงชีวิตที่สุขสงบ ได้พักผ่อนจากการทำงานหนักมานาน เราจึงไม่มีกรอบมาจำกัดการใช้ชีวิต ได้ใช้เวลาตามแบบที่เราต้องการ และไร้ความกังวล วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตของเราและคู่ชีวิตสะดวกสบาย และมีความสุขตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต รวมถึงการเลือกคอนโดหรือที่พักสำหรับวัย 50+ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สุด 

เลือกที่พักมีความสะดวก กว้างขวาง ปลอดภัย และ สบาย ออกแบบตามหลัก Universal Design

สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับก่อนก็คือ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น สุขภาพร่างกายและความแข็งแรงก็เริ่มถดถอย เรี่ยวแรง หรือกล้ามเนื้อก็เริ่มอ่อนแรง ในช่วงวัย 50+ เราอาจจะยังสามารถเดินเหินได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ถ้าในวัย 70+ ล่ะ เราคิดว่ากระดูก และขาจะสามารถทรงตัวได้อย่างเดิมหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรเลือกที่พักที่ออกแบบตามหลัก Universal Design เพื่อความสะดวกสบายและไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากมายเมื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิต

ตัวอย่างการออกแบบตามหลัก Universal Design

• ทางเข้า ควรมีทางลาดสำหรับรถเข็น โดยมีอัตราส่วนของทางลาดอย่างน้อย 1:12 (พื้นสูง 1 เมตร ทางลาดต้องยาว 12 เมตร) และมีราวจับตลอดทาง 
• ประตู ไม่ควรมีธรณีประตู และควรมีความกว้างมากกว่า 90 ซม. แนะนำเป็นประตูบานเลื่อน หรือใช้คันโยกแทนลูกบิดในการเปิดประตู
• หน้าต่าง ควรสูงจากพื้นประมาณ 75-100 ซม. เพื่อให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจน 
• พื้น ต้องเป็นพื้นที่ไม่ลื่นแม้เปียกน้ำ และไม่เล่นพื้นต่างระดับ ที่สำคัญไม่ควรใช้พรมหรือวัสดุอื่น ๆ ปูพื้น จนเป็นเหตุให้ลื่นล้มได้ง่าย 
• ห้องน้ำ ประตูควรเป็นแบบบานเลื่อน หากเป็นแบบบานเปิดควรเปิดออกจากห้องน้ำไปด้านนอก เผื่อในกรณีฉุกเฉินที่ล้มหรือหมดสติบริเวณประตู ห้องน้ำควรมีขนาดกว้าง แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าออกแบบเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มีราวจับบริเวณโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า บริเวณอาบน้ำ และควรมีปุ่มกดสัญญาณฉุกเฉิน
• ห้องนอน ควรอยู่ติดกับห้องน้ำ มีไฟหัวเตียง และมีปุ่มฉุกเฉินเช่นกัน เตียงควรสูงประมาณ 40-50 ซม. และควรมีพื้นที่ว่าง 3 ด้าน (ยกเว้นบริเวณหัวเตียง) ด้านละมากกว่า 90 ซม. 

THE ASPEN TREE THE FORESTIAS  ออกแบบ “บ้าน” ด้วยการคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก จึงใส่ใจในรายละเอียดทุกจุด เพื่อให้ทุกชีวิตสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยเราได้ออกแบบทางเดินและประตูที่กว้างกว่าปกติ แม้ว่าจะใช้รถเข็นก็ไม่ต้องห่วงว่าจะใช้ชีวิตประจำวันลำบาก นอกจากนี้ยังออกแบบเพดานให้มีลักษณะโล่งกว้าง สร้างความรู้สึกโปร่งสบาย พื้นและห้องน้ำถูกออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันการล้ม ที่สำคัญยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. จึงมั่นใจได้ว่าอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าจะอยู่บ้านคนเดียวก็ตาม ไม่เป็นภาระใครอย่างแน่นอน 

เลือกที่พักที่เดินทางสบาย เข้าถึงบริการได้หลากหลาย

ในวัย 50+ เราก็ยังต้องการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และบริการที่จำเป็นต้องจิตใจของเรา 

สิ่งหนึ่งที่เราต้องรู้คือ เมื่ออายุมากขึ้นความสามารถในการขับขี่รถยนต์ก็อาจแย่ลงตามไป ทั้งสาเหตุจากสายตาที่มองเห็นไม่ชัดเจนอย่างเคย โดยเฉพาะตอนกลางคืน การที่สมองเริ่มเสื่อมลงก็มีผลต่อการตัดสินใจ และกล้ามเนื้อที่เริ่มอ่อนแรง

ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรเลือกที่พักในวัย 50+ ที่สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ง่าย สามารถเดินไปได้เลยยิ่งดี ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข  ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ ที่สำคัญ เราควรเลือกโครงการที่ไม่ไกลจากครอบครัวและเพื่อนของเรามากนัก เพราะนอกจากความแข็งแรงทางกายแล้ว ในช่วงที่เรามีเวลาว่างเหลือเฟือ ความเหงาอาจจะเข้ามาเยือน สุขภาพใจจึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน

ออกมาใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ

พื้นที่สีเขียวช่วยเยียวยาสุขภาพกายและสุขภาพใจได้เป็นอย่างดี

ที่ประเทศออสเตรเลียได้มีการทำวิจัย กับผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียว อย่างสวนสาธารณะ เขตอนุรักษ์ และป่าไม้ พบว่า มีความเหงาน้อยกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่น ๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ตามลำพัง ด้วยเหตุนี้ พื้นที่สีเขียว ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม หรือทุ่งดอกไม้ ไม่ว่าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่มีผลต่อจิตใจของเราแทบจะทั้งนั้น 

นอกจากเรื่องของจิตใจแล้ว ยังช่วยในเรื่องของสุขภาพกายอีกด้วย เพราะต้นไม้จะช่วยฟอกอากาศ เป็นกำแพงปกป้องฝุ่นและมลพิษ รวมถึงยังช่วยลดอุณหภูมิโดยรอบไม่ให้ร้อนจนเกินไป  

ในวัย 50+ แม้ว่าจะเป็นวัยที่ทำงานน้อยลง และพักผ่อนมากขึ้น แต่หลายคนก็ยังคงแอคทีฟและชอบทำกิจกรรมอยู่ การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจะช่วยฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะในพื้นที่สีเขียวนี้ เราสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย ตั้งแต่การออกกำลังกาย การแคมปิ้ง การพบปะเพื่อนฝูง วาดรูปในสวน เล่นหมากรุกกับเพื่อนรุ่นเดียวกันและเพื่อนต่างวัย 

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเราต้องเริ่มชีวิตบทใหม่ในวัย 50+ ได้อย่างสุขเกษม เราจึงต้องเลือกที่พักธรรมชาติ ใกล้กรุงเทพฯ แค่เปิดประตูออกมาเจอ เรียกว่ายิ่งมีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก ยิ่งดี แต่หากจะให้ดีที่สุด ให้ลองเลือกที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบมารวมไว้ในที่เดียว สามารถลุกขึ้นมาออกกำลังกายตอนเช้า หรือเดินเล่นในสวนยามเย็น ทั้งหมดนี้มีที่ THE ASPEN TREE THE FORESTIAS  เราจัดรวมเอาไว้ให้ครบ จบทุกความต้องการ  

ดูแลสุขภาพอย่างครอบคลุม ด้วย Preventive Health Care

นวัย 50+ เราอาจจะเริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หากว่าเราไม่ดูแลและป้องกัน อาจจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ ทั้งการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง อย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายเป็นประจำ และทำกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพใจ หรือที่หลายคนเรียกว่า “Preventive Health Care”  หรือการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ซึ่งเป็นการออกแบบและวางแผนสุขภาพในระยะยาว นอกจากจะทำให้เรามีสุขภาพกายและใจที่ดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน เพราะเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเป็นค่ารักษาพยาบาลในยามเจ็บป่วยนั่นเอง 

ปลุกวัย 50+ เป็นวัยแห่งการทำกิจกรรม

ในวัย 50+ เป็นวัยที่ลูกหลานของเราเติบโต และเราไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากแล้ว หลายคนจึงมีคำถามว่า เราจะเหงาไหม แล้วจะทำกิจกรรมอะไรดี? ที่จริงวัย 50+ นี้เป็นวัยที่ยังแอคทีฟ และไม่ยอมอยู่ว่าง ๆ และชอบมองหาคอร์สหรือเวิร์กช็อปใหม่ ๆ อยู่เสมอ เป็นการออกกำลังกายสมองโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งกิจกรรมในวัยนี้มีได้หลากหลาย สามารถเลือกได้ตามความชอบของแต่ละคน 

ตัวอย่างกิจกรรมยอดฮิตของวัย 50+ 

• ปลูกต้นไม้ แนะนำให้เป็นผักสวนครัว เห็ด กล้วยไม้ ไม้อวบน้ำ หรือต้นไม้ที่ไม่ใหญ่หรือต้องใช้แรงกายในการดูแลมากนัก 
• ทำอาหารกินเอง นอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพ ที่จะสามารถเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ดีและมีประโยชน์ได้แล้ว ยังช่วยฝึกสมองและความคิดสร้างสรรค์ สร้างสมาธิ การทำอาหารกินเองเป็นประจำ จึงเท่ากับการได้บริหารสมองไปด้วยในตัว 
• วาดรูป ระบายสี หรือทำงานคราฟต์ง่าย ๆ ที่ช่วยให้จิตใจและสมองได้ผ่อนคลาย และเมื่อเสร็จแล้วยังสามารถนำมาตกแต่งที่พัก ใช้เป็นของขวัญของฝากให้กับคนที่เรารักได้เป็นอย่างดี 
• อ่านหนังสือ ดูซีรีส์ ในวัยทำงานเราอาจจะมีหนังสือที่อยากอ่านกองเท่าภูเขา หรืออาจจะมีรายการซีรีส์ที่ยาวเป็นหางว่าว ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้อ่านหนังสือ และดูซีรีส์อย่างไร้กังวล
• ออกกำลังกายหรือปิกนิกในสวน อย่ามัวแต่อุดอู้อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม ออกมาเดินหรือวิ่งในสวนสาธารณะ หรือหยิบอาหารง่าย ๆ มานั่งกินบนเสื่อ พร้อมกับการสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวน 
• ฟังเพลง ร้องเพลง หรือเล่นดนตรี เราอาจจะเคยอยากเรียนเปียโน อยากตีกลอง หรืออยากจะร้องเพลง ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้เริ่มทำกิจกรรมที่เราอยากลองทำสักที

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปนั้น อาจจะเป็นกิจกรรมที่เราสนใจและหาทำด้วยตัวเอง แต่หากที่พักที่เราเลือกอยู่อาศัย มีการจัดกิจกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ตามเทศกาล หรือการจัดให้มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน ก็จะช่วยกระตุ้นความสดชื่นและความกระปรี้กระเปร่าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 

ที่ THE ASPEN TREE THE FORESTIAS เราเป็น ACTIVE COMMUNITY ขุมทรัพย์แห่งการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด โดยได้รังสรรค์คอร์สเรียนมากมายที่ออกแบบโดย BAYCREST ผู้เชี่ยวชาญการดูแลผู้สูงวัยครบวงจรจากแคนาดา ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 100 ปี เพื่อให้คนวัย 50+ ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองในทุกวัน ด้วยตระหนักดีว่า การเรียนรู้สิ่งใหม่จะช่วยต่อพลังชีวิตให้ยืนยาวและมีพลังได้เสมอ

ทั้งหมดนี้เพื่อวัยนี้ได้ใช้ชีวิตที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพที่เปลี่ยนไปเมื่ออายุมากขึ้น  THE ASPEN TREE THE FORESTIAS โครงการที่พักอาศัยแนวคิดใหม่ ตอบโจทย์คนวัย 50+ เรามีบริการที่พร้อมดูแลคุณไปตลอดชีวิตแบบครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพ ในคอนเซปต์ A Community for Healthy Living and Lifetime Care หนึ่งเดียวในเมืองไทย เพื่อชีวิตบทใหม่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม