ลงทะเบียน
CHAT
WITH US

ห่างไกลเบาหวานและภาวะน้ำหนักเกิน เพื่อสุขภาพที่ดีของสมอง

ห่างไกลเบาหวานและภาวะน้ำหนักเกิน เพื่อสุขภาพที่ดีของสมอง

เบาหวาน (diabetes) เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพราะทำให้เกิดผลเสียโดยรวมกับร่างกายได้หลายอย่าง ในผู้ที่เป็นเบาหวานโดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 2 จะเกิด “ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance)” ซึ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้เกิดภาวะอักเสบตามมาได้ โดยปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดตามมาหากมีเบาหวาน เช่น โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคประสาทส่วนปลายเสื่อม โรคเบาหวานขึ้นตาซึ่งอาจทำให้ตาบอด และยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อได้อีกด้วย  นอกเหนือจากนั้นยังมีการศึกษายืนยันพบอีกว่า เบาหวานเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อม (dementia) อีกด้วย

ภาวะน้ำหนักเกิน (obesity) ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากวิถีการดำเนินชีวิตที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง รับประทานอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันสูง ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งภาวะน้ำหนักเกินนี้ก็มีผลเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดการเจ็บป่วยต่าง ๆ มากขึ้น เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมอีกด้วย

การศึกษาเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ภาวะน้ำหนักเกิน ภาวะดื้อต่ออินซูลิน กับการเกิดภาวะสมองเสื่อม             

มีหลายการศึกษาที่ศึกษาหาความเชื่อมโยงกันระหว่างการรับประทานอาหาร ภาวะน้ำหนักเกิน ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม เช่น การศึกษาของ ดร. คาร์รอล กรีนวูด นักวิทยาศาสตร์ของ Baycrest ผู้นำด้านการวิจัย และดูแลสุขภาพผู้สูงวัยระดับโลกจากประเทศแคนาดาพบว่า การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันชนิดอิ่มตัว (saturated fatty acid) นั้นทำให้เกิดภาวะกระบวนการคิด และสติปัญญาถดถอย (cognitive decline) และภาวะสมองเสื่อม (dementia) ได้ ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่จากการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงสามารถส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของระบบประสาท และในขณะเดียวกันก็ยังทำให้เกิดโรคเรื้อรังได้ ได้แก่ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ โรคความดันสูง หรือภาวะซึมเศร้า ซึ่งโรค หรือภาวะเหล่านี้นั้น เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระบวนการคิดสติปัญญาถดถอย และภาวะสมองเสื่อม

แม้ว่ายังไม่สามารถสรุปได้ว่า กลไกใดที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงแล้วทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทราบคือ อายุที่เพิ่มขึ้นร่วมกับการมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance) เบาหวานชนิดที่ 2 และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง สามารถส่งผลให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้

การศึกษาในทางระบาดวิทยาเกี่ยวกับรูปแบบการรับประทานอาหารกับภาวะสมองเสื่อม

จากการศึกษาทางระบาดวิทยา (epidemiology) ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับ ลักษณะการเกิดโรค การกระจายของโรค และ สาเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยต่าง ๆ พบว่าการบริโภคไขมันนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับปริมาณ และคุณภาพของไขมันที่รับประทาน จากการศึกษาในผู้สูงวัยพบว่า การรับประทานอาหารที่ไขมันสูง โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 6 กรดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ  เช่น โรคเบาหวาน ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้ ซึ่งการศึกษานี้ได้ผลการศึกษาไปในทิศทางเดียวกับการศึกษาในสัตว์ทดลอง

อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งข้อมูลนี้ให้ผลการศึกษาไปในทางเดียวกับการศึกษาหนึ่งที่พบว่าระดับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในเลือดนั้นมีค่าลดลงในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ จากข้อมูลเหล่านี้อาจทำให้พอสรุปได้ว่า การรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ แต่มีปริมาณของกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง โดยเฉพาะในน้ำมันปลา สามารถช่วยป้องกันโรคเรื้อรังหลายชนิด รวมถึงภาวะสมองเสื่อมได้

ผลของภาวะดื้ออินซูลินกับภาวะสมองเสื่อม

จากข้อมูลการศึกษาต่าง ๆ พบว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน และเบาหวานสัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อม โดยมีรายงานว่าในผู้สูงวัยที่แม้ว่าจะยังมีสุขภาพดีแต่เริ่มมีปัญหาการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จะเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับความจำด้านการใช้ภาษา (verbal memory) และพบอีกว่าในผู้สูงวัยที่เป็นเบาหวาน หรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน มีระดับความจำยิ่งแย่ลงไปอีก และผลนี้ก็พบในการศึกษาในสัตว์ทดลองเช่นกัน

อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงไม่ได้ส่งผลโดยตรงกับการเกิดภาวะสมองเสื่อม แต่การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง จะไปนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกินและการดื้อต่ออินซูลิน ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติไป และไปเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อม

ข้อสรุปของการรับประทานอาหารไขมันสูง เบาหวาน และภาวะดื้อต่ออินซูลินต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม

โดยสรุปแล้ว จากการศึกษาทั้งในคนและสัตว์ทดลอง ชี้ให้เห็นว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง (โดยเฉพาะกรดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์) สัมพันธ์กับการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม ซึ่งกลไกที่เกี่ยวข้องน่าจะเกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน และภาวะเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งภาวะทั้งสองถูกจัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และไม่เพียงแต่ภาวะเบาหวานชนิดที่ 2 เท่านั้น ภาวะที่มีจากการเผาผลาญอาหารของร่างกายที่ผิดปกติไป (metabolic syndrome) ก็เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ ดังนั้นการควบคุมและป้องกันการเกิดเบาหวาน ภาวะดื้อต่ออินซูลิน และน้ำหนักเกินจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมได้

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และการดำเนินชีวิตเพื่อป้องกันภาวะน้ำหนักเกิน เบาหวาน และภาวะดื้อต่ออินซูลิน ลดความเสี่ยงของสมองเสื่อม

จากข้อมูลดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นชี้ว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โรคเบาหวาน การมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน และการมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อม และอย่างที่ทราบกันดีว่าภาวะเหล่านี้เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง ขาดการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและการรับประทานอาหารจึงมีความสำคัญในการช่วยลดการเกิดภาวะดื้ออินซูลิน โรคเบาหวาน และภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งก็จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมลงได้

การศึกษาในปี 2018 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ American journal of lifestyle medicine ที่ได้รวบรวบผลจากหลาย ๆ การศึกษาซึ่งสรุปได้ว่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การควบคุมปริมาณอาหาร และคุณภาพของอาหารที่รับประทานในแต่ละวันมีความสำคัญ โดยพบว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ และมีไฟเบอร์สูงช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในเกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคเบาหวาน

โดยจากบทความนี้ได้อธิบายถึงการลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะเบาหวาน เมื่อเรามีการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร เช่น

  • การรับประทานอาหารจำพวก ซีเรียลไฟเบอร์ ธัญพืชไม่ขัดสี สามารถช่วยลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานได้ 18%-40%
  • การรับประทานธัญพืชไม่ขัดสี (whole-grain) เพิ่มขึ้น 2 หน่วยบริโภคต่อวัน สามารถช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานได้สูงสุด 21%
  • การลดปริมาณการบริโภคไขมันอิ่มตัวให้เหลือน้อยกว่า 7% ของพลังงานที่รับประทานทั้งหมดในแต่ละวันช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานลงได้
  • ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นประจำทุกวัน มีความเสี่ยงของการเป็นเบาหวานมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มถึง 26%
  • การออกแบบการรับประทานอาหารโดยการจัดสัดส่วนปริมาณการบริโภคอาหารที่มีไขมันระดับต่ำถึงปานกลางให้อยู่ที่ 10%-45% เลือกรับประทานอาการกลุ่มโปรตีน และรับประทานคาร์โบไฮเดรตต่ำ และมีค่า glycemic index ต่ำ จะช่วยลดน้ำหนักได้ และยังช่วยลดความเสี่ยงของเบาหวานได้อีกด้วย

ไม่เพียงการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารเท่านั้น การเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็สามารถลดการเกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน

สรุป

ภาวะสมองเสื่อม เป็นปัญหาที่เกิดจากการทำงานของสมองผิดปกติ มีการเสื่อมถอยของสมองจนทำให้ผู้มีภาวะสมองเสื่อมมีอาการหลงลืม หรืออาจรุนแรงไปจนถึงไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐาน หรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งมีหลายการศึกษาพบว่าภาวะน้ำหนักเกิน โรคเบาหวาน เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม

ดังนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันภาวะน้ำหนักเกินและเบาหวาน จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้

สุขภาพกาย จิตใจ สมองที่แข็งแรง คือของขวัญของที่ดีที่สุดสำหรับวัย 50+ ที่ The Aspen Tree The Forestias Operated by Baycrest พร้อมดูแลตลอดชีวิตแบบครบวงจร

ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้คนมีอายุยืนยาวขึ้น และของขวัญที่ล้ำค่าของคนที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น คือ การมีสุขภาพที่แข็งแรง ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ มีความหมาย ปราศจากความกังวล และทั้งหมดนี้คือแนวคิดที่ The Aspen Tree The Forestias ได้ร่วมออกแบบและพัฒนาร่วมกับผู้นำด้านการวิจัย และดูแลสุขภาพผู้สูงวัยระดับโลกจากประเทศแคนาดาอย่าง Baycrest ในการเติมเต็มทุกความต้องการ ให้คุณได้อยู่ในสังคมหลากหลายวัยในโครงการ The Forestias  พร้อมบริการด้านสุขภาพและการดูแลครบวงจร (Holistic Lifetime Care) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ผสานกับโปรแกรม Health & Wellness ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของวัยอิสระ อาทิเช่น โยคะ ว่ายน้ำ ร้องเพลง เล่นดนตรี นั่งสมาธิ กิจกรรมกลางแจ้ง ธาราบำบัด และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพกาย จิตใจ และสมองของคุณให้แข็งแรงอยู่เสมอ

พื้นที่โครงการ The Aspen Tree The Forestias ยังมี Health & Brain Center ที่คอยให้บริการด้านสุขภาพและชะลอการเกิดภาวะสมองเสื่อม โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางดูแลสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้คุณอุ่นใจ และมีสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม

ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลในช่วงเวลาอิสระของชีวิต ร่วมค้นหาคำตอบของชีวิตที่สมบูรณ์แบบไปด้วยกัน

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://mqdc.com/aspentree

โทร. 1265

LINE OA : @TheAspenTree หรือ คลิก https://mqdc.link/3Emhkde

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

PUBLISHED : 1 ปีที่แล้ว

facebook twitter line

RELATE ARTICLES

MQDC
การยืนยัน